January 22, 2025
โอเมก้า 3 สำหรับคนท้อง! กินแล้วดีอย่างไร สำคัญต่อคุณแม่แค่ไหน?

ช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่หลายคนคงเคยได้ยินคำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่ควรกินเพื่อบำรุงตัวเองและลูกน้อย แต่หนึ่งในสารอาหารที่สำคัญและถูกพูดถึงบ่อย ๆ คือ โอเมก้า 3 รู้ไหมว่าเจ้าโอเมก้า 3 ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องสมองของลูกในครรภ์ แต่ยังมีประโยชน์มากมายสำหรับคุณแม่ด้วย บทความนี้ KLARITY จะพาไปรู้จักโอเมก้า 3 อย่างลึกซึ้ง พร้อมเคล็ดลับการเลือกและทานให้เหมาะสม มาดูกันเลย!
โอเมก้า 3 คืออะไร? ไขความลับสารอาหารที่คุณแม่ห้ามพลาด
ก่อนจะลงลึกถึงประโยชน์ มาทำความรู้จักกับ โอเมก้า 3 กันก่อน โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันชนิดดีที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น สารนี้มีส่วนสำคัญในการบำรุงสมองและหัวใจ ซึ่งในช่วงตั้งครรภ์ เจ้าตัวเล็กในครรภ์ก็ต้องการโอเมก้า 3 อย่างมาก เพื่อช่วยพัฒนาสมอง ดวงตา และระบบประสาทของเขา
ประโยชน์ของโอเมก้า 3 ที่คุณแม่ต้องรู้ เพื่อสุขภาพดีของลูกน้อยในครรภ์
ถ้าพูดถึงสารอาหารที่เป็นตัวช่วยสำคัญของคุณแม่ตั้งครรภ์ โอเมก้า 3 คือตัวจริง เพราะนอกจากจะช่วยดูแลสุขภาพของคุณแม่แล้ว ยังมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ด้วย โดยประโยชน์หลัก ๆ มีดังนี้
- เสริมสร้างพัฒนาการสมองและสายตา ของลูกตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์
- ลดโอกาสคลอดก่อนกำหนด ช่วยให้ลูกแข็งแรงพร้อมลืมตาดูโลก
- ลดความเสี่ยงภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ให้คุณแม่พร้อมดูแลเจ้าตัวเล็กได้อย่างเต็มที่
- ช่วยบำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต ของคุณแม่ เพื่อสุขภาพที่ดีตลอดการตั้งครรภ์
ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายขนาดนี้ คุณแม่ต้องไม่พลาดที่จะเสริมโอเมก้า 3 ในทุกมื้ออาหาร
โอเมก้า 3 ต้องกินเท่าไหร่ถึงจะพอดี?
ไม่ใช่แค่กินแล้วดี แต่ต้องกินให้เหมาะสมด้วยนะคะ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แนะนำให้ได้รับ โอเมก้า 3 ประมาณ 200-300 มก. ต่อวัน ซึ่งสามารถมาจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น น้ำมันปลา (Fish Oil)แต่หากไม่แน่ใจ ลองปรึกษาคุณหมอเพื่อปรับปริมาณที่เหมาะสม
(อ่านเพิ่ม ร่างกายต้องได้รับปริมาณ Omega-3 เท่าไหร่ใน 1 วัน)
กินอะไรดี? แหล่งโอเมก้า 3 ที่อร่อยและมีประโยชน์สำหรับคุณแม่
เมื่อพูดถึงการเติม โอเมก้า 3 ให้กับร่างกาย คุณแม่อาจสงสัยว่าจะหาได้จากที่ไหนบ้าง? บอกเลยว่าแหล่งโอเมก้า 3 มีให้เลือกเพียบ แถมยังอร่อยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย ลองเลือกจากเมนูเหล่านี้เลย
- ปลาแซลมอนและปลาทะเลน้ำลึก เนื้อปลาชุ่มฉ่ำที่อุดมไปด้วย DHA และ EPA ช่วยพัฒนาสมองและสายตาของลูกในครรภ์
- เมล็ดเจียและเมล็ดแฟลกซ์ ของว่างเพิ่มพลังที่เต็มไปด้วย ALA ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 อีกชนิดที่ดีต่อหัวใจ
- วอลนัท ทานเป็นของขบเคี้ยวหรือใส่ในโยเกิร์ต เพิ่มทั้งความอร่อยและสารอาหาร
- ไข่โอเมก้า 3 ไข่เสริมคุณค่าทางอาหารที่หาซื้อง่าย แถมปรุงได้หลากหลายเมนู
- ปลาซาร์ดีน เล็กแต่แจ๋ว! ปลาซาร์ดีนกระป๋องที่แสนสะดวกก็เป็นแหล่งโอเมก้า 3 ชั้นเยี่ยม
การเลือกแหล่งโอเมก้า 3 ไม่จำเป็นต้องซ้ำซาก ลองเปลี่ยนเมนูในแต่ละวันให้หลากหลาย คุณแม่จะได้ไม่เบื่อและยังได้รับสารอาหารครบถ้วนไปพร้อมกัน
เลือกน้ำมันปลาอย่างไร? 3 เทคนิคที่คุณแม่ต้องเช็กก่อนซื้อ
คุณแม่ที่อยากเพิ่ม โอเมก้า 3 จากน้ำมันปลาแต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี ไม่ต้องกังวล! ลองใช้ 3 เทคนิคนี้ช่วยในการตัดสินใจ รับรองได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ปลอดภัยแน่นอน
ดูปริมาณ DHA และ EPA ให้เหมาะสม
เลือกน้ำมันปลาที่มี DHA และ EPA สูง เพราะสารทั้งสองชนิดนี้มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการสมองและสายตาของลูกในครรภ์
ตรวจสอบความบริสุทธิ์และมาตรฐานความปลอดภัย
มองหาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น USP หรือ NSF และมีการตรวจสอบปริมาณโลหะหนักเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูก
เลือกน้ำมันปลาในรูปแบบซอฟท์เจล ทานง่าย ไม่เหม็นคาว
คุณแม่หลายคนอาจกังวลเรื่องกลิ่นคาวของน้ำมันปลา เลือกแบรนด์ที่ผลิตในรูปแบบซอฟท์เจลหรือปราศจากกลิ่น เพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
เติมเต็มโอเมก้า 3 คุณภาพสูง ด้วย Omega-3 Norway Daily จาก KLARITY!
ดูแลสุขภาพคุณแม่และเจ้าตัวเล็กในครรภ์อย่างมั่นใจ ด้วย น้ำมันปลา Omega-3 Norway Daily จาก KLARITY ที่คัดสรรส่วนผสมคุณภาพสูง ผลิตจากประเทศนอร์เวย์ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล พร้อมปริมาณ DHA และ EPA ที่เหมาะสม เพราะคุณแม่และลูกน้อยต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เลือก KLARITY แล้วเริ่มต้นการดูแลสุขภาพวันนี้!
|
สิ่งที่ควรระวังในการทานโอเมก้า 3
แม้ว่า โอเมก้า 3 จะมีประโยชน์มากมายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่การทานอย่างระมัดระวังก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้เช็กสิ่งที่ควรระวังเหล่านี้ก่อนเริ่มทาน
-
ระวังปริมาณที่มากเกินไป
การทานโอเมก้า 3 ในปริมาณสูงอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม -
เลือกแหล่งที่มาของโอเมก้า 3 ให้ปลอดภัย
หากมาจากน้ำมันปลา ต้องมั่นใจว่าไม่มีสารปนเปื้อน เช่น ปรอทหรือโลหะหนัก ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่และลูก -
หลีกเลี่ยงการทานพร้อมยาบางชนิด
หากคุณแม่กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) หรือยาบางประเภท ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานโอเมก้า 3 เพราะอาจมีผลกระทบต่อยา -
ตรวจสอบอาการแพ้
คุณแม่บางคนอาจแพ้ส่วนผสมในน้ำมันปลา เช่น โปรตีนจากปลา หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในผลิตภัณฑ์
หมายเหตุ: คุณแม่ที่ต้องการทานอาหารเสริมโอเมก้า-3 ควรปรึกษาแพทย์ในเรื่องการบริโภค Fish Oil เพิ่มเติม เนื่องจาก Fish Oil มีส่วนทำให้เลือดไม่แข็งตัว อาจเป็นผลเสียต่อคุณแม่เมื่อเกิดแผลได้
อ้างอิงข้อมูลจาก Omega-3 Supplements During Pregnancy: Dosing, Safety, and FAQs - GoodRx
สรุป
โอเมก้า 3 ถือเป็นสารอาหารสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรมองข้าม เพราะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมอง สายตา และระบบประสาทของลูกในครรภ์ รวมถึงช่วยดูแลสุขภาพของคุณแม่เอง ตั้งแต่การลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ไปจนถึงการป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
นอกจากการเลือกแหล่งโอเมก้า 3 จากอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอย่างน้ำมันปลาคุณภาพสูงก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี แต่คุณแม่ต้องระมัดระวังปริมาณและตรวจสอบความปลอดภัยก่อนทานเสมอ