March 12, 2024
น้ำมันปลา (Fish Oil) ทางเลือกสุขภาพสมองของคนไม่ชอบกินปลา
น้ำมันปลา (Fish Oil) เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนต่าง ๆ ของปลาทะเล อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า เป็นต้น โดยน้ำมันปลาจะอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวจำพวก โอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากแหล่งอาหาร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเท่านั้น
สารบัญ
- เนื้อปลาจริง กับน้ำมันปลา กินแบบไหนดีกว่ากัน ?
- ประโยชน์ของ DHA และ EPA ต่อร่างกายมีอะไรบ้าง
- น้ำมันปลากับประโยชน์ต่อสมองมากมายที่หลายคนยังไม่รู้
- สรุป
เนื้อปลาจริง กับน้ำมันปลา กินแบบไหนดีกว่ากัน ?
หากต้องการแหล่งสารอาหารที่หาได้ง่าย ๆ อุดมไปด้วยกรดไขมัน โอเมก้า-3 (Omega-3) เข้มข้นก็คงไม่พ้น “ปลา” อย่างแน่นอน แต่การที่เราจะทานปลาทุกมื้อนั้นคงจะเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนอาจไม่ถูกใจนัก แต่ถ้าหากไม่ได้รับ โอเมก้า-3 (Omega-3) เข้าสู่ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะส่งผลเสียต่อสมองของเราโดยตรงเช่นกัน ดังนั้นการเลือกทานน้ำมันปลา ก็เป็นทางเลือกที่ดี และควบคุมได้ง่าย ซึ่งเราสามารถรับ โอเมก้า-3 (Omega-3) โดยที่เราไม่ต้องทานปลาทุกมื้อก็ได้
ซึ่งน้ำมันปลานั้นคุณประโยชน์มากมายต่อสมอง เพราะกรดไขมัน Omega-3 ในน้ำมันปลา มีส่วนประกอบที่สำคัญอย่าง DHA และ EPA แล้วทั้ง 2 อย่างนี้มีประโยชน์ยังไงต่อร่างกายเราบ้างล่ะ ?
ประโยชน์ของ DHA และ EPA ต่อร่างกายมีอะไรบ้าง ?
DHA และ EPA ล้วนแล้วเป็นกรดไขมันชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากการทานอาหารเท่านั้น โดยมีหน้าที่สำคัญหลัก ๆ คือการซ่อมแซมเซลล์สมอง และสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ หากรับสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอ จะส่งผลกระทบทั่วทั้งร่ายกาย ไม่ว่าจะเป็น สมอง เลือด กระดูก ผิวหนัง ผม เป็นต้น ซึ่งประโยชน์ของกรดไขมันทั้งสองต่อร่างกายเรามีดังนี้
กรดไขมัน DHA (Docosahexaenoic acid)- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
- บำรุงสมอง ชะลอความเสื่อม
- บำรุงสายตา ช่วยเรื่องการมองเห็น
- บำรุงสุขภาพผิว ผม และเล็บให้แข็งแรง
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด
- ลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์
- ดูแลสุขภาพข้อต่อ ช่วยอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ
น้ำมันปลากับประโยชน์ต่อสมองมากมายที่หลายคนยังไม่รู้
จากงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นพบว่าการรับประทานน้ำมันปลาเป็นประจำ อาจมีส่วนช่วยในการปรับปรุงการทำงานของสมองในด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ช่วยในด้านการเรียนรู้และความจำในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
- ช่วยปรับปรุงความจำระยะสั้นและความจำระยะยาวได้
- ช่วยปรับปรุงสมาธิและการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยพัฒนาสมองพร้อมป้องกันสมองเสื่อม
สรุป
ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลาจริง หรือน้ำมันปลา ต่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งคู่ แต่ทางเลือกง่าย ๆ สำหรับใครที่ไม่อยากกินปลาทุกมื้อ หรือไม่ชอบกินปลา และสามารถควบคุมสารอาหารได้ ต้องลองหันมาเปิดใจให้กับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลา เพื่อความสะดวกในการดูแลสุขภาพสมองของคุณ
KLARITY มีสิ่งดี ๆ มาแนะนำอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Omega-3 Norway Daily น้ำมันปลาบริสุทธิ์ ไร้สารปนเปื้อนทางชีวภาพ รวมถึงโลหะหนัก สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติในประเทศนอร์เวย์ บรรจุไว้ในซอฟท์เจลขนาดเล็ก ทานง่าย ไร้กลิ่นคาวปลา มีส่วนประกอบของน้ำมันปลา 500 มก. กรดไขมัน EPA 175 มก. และ DHA 125 มก. ต่อเม็ด ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสม และควรได้รับต่อวัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของสุขภาพสมองของคนไทย
สั่งซื้อตอนนี้ คลิกเลย !
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมองของเราได้ที่นี่