August 28, 2024

ทำไมเราถึงขี้ลืม? ขี้ลืม แก้ยังไง! ป้องกันได้เริ่มจากอาหารที่ดีต่อสมอง

ขี้ลืม แก้ยังไงดี

เคยรู้สึกไหมว่าลืมกุญแจบ้าน ลืมนัดหมาย หรือแม้แต่ลืมสิ่งที่เพิ่งคุยกันไปเมื่อครู่? อาการขี้ลืมเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เราขี้ลืม และมีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้? บทความนี้ KLARITY จะพาคุณไปไขข้อข้องใจของอาการขี้ลืม พร้อมทั้งแนะนำวิธีการดูแลสมองและเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อป้องกันปัญหาความจำเสื่อมก่อนที่จะสายเกินไป

สาเหตุที่ทำให้ขี้ลืม ความจำไม่ดี 

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราจึงเริ่มขี้ลืมมากขึ้น หรือทำไมความจำถึงไม่ดีเหมือนเคย สาเหตุต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความจำของเรามีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต ความเครียด การพักผ่อน หรือแม้แต่การขาดสารอาหารที่สำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการขี้ลืมและความจำเสื่อม เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจและหาทางป้องกัน

การใช้สมองหนักเกินไป

การทำงานหนักหรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น อาจทำให้สมองของเราทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้ความจำเสื่อมได้ชั่วคราว การพักผ่อนสมองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สมองได้ฟื้นฟูและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความเครียด

ความเครียดเป็นศัตรูตัวร้ายของสมอง เพราะเมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ ทำให้เราจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดเรื้อรังยังอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความจำ

การนอนไม่หลับ

การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่สมองได้พักผ่อนและซ่อมแซมตัวเอง การนอนไม่หลับเพียงพอจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้เราขี้ลืมและมีสมาธิลดลง นอกจากนี้ การนอนไม่หลับยังเกี่ยวข้องกับความเครียด ซึ่งจะยิ่งส่งผลเสียต่อความจำมากขึ้นไปอีก

สมองขาดสารอาหาร

สมองต้องการสารอาหารที่หลากหลายเพื่อการทำงานที่สมบูรณ์แบบ การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินบี 12, วิตามินอี, โอเมก้า 3 และธาตุเหล็ก สามารถส่งผลต่อความจำและการเรียนรู้ของสมองได้เช่นกัน ดังนั้นการทานอาหารที่ดีต่อสมองเสมอจะช่วยแก้ไขปัญหาขี้ลืมได้ 

อายุเยอะ เซลล์เสื่อม 

การที่อายุมากขึ้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เซลล์สมองเสื่อมตามไปด้วย ส่งผลให้ความจำและการเรียนรู้ลดลง อย่างไรก็ตาม การเสื่อมของเซลล์สมองสามารถชะลอได้ด้วยการดูแลสุขภาพสมองอย่างสม่ำเสมอ 

อาหารบำรุงสมอง ช่วยแก้ปัญหาขี้ลืมได้จริงหรือ?

อาหารมีบทบาทสำคัญในการบำรุงสมองและส่งเสริมความจำที่ดี การรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาความจำเสื่อม และช่วยแก้ปัญหาขี้ลืมได้ในระยะยาว อาหารที่บำรุงสมองได้ดีมักจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น เช่น โอเมก้า-3 วิตามินบี สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเสริมสร้างเซลล์ประสาท

ตัวอย่างอาหารที่บำรุงสมองและช่วยลดการขี้ลืม ได้แก่:

  • ปลาแซลมอนและปลาทะเลน้ำลึก - อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการทำงานของสมองและลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อม
  • ใบแปะก๊วย (Ginkgo Biloba) - เป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมในการบำรุงสมองและช่วยแก้ปัญหาขี้ลืม ใบแปะก๊วยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ส่งผลให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น 
  • ถั่วและเมล็ดพืช - มีวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย
  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ - เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างความจำและชะลอการเสื่อมของสมอง
  • ผักใบเขียว - เช่น ผักโขม คะน้า ที่มีวิตามินบีและโฟเลต ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาทที่สำคัญต่อการจดจำและการเรียนรู้

"ลืมบ่อยจนน่าห่วง? KLARITY Omega-3 Norway Daily ช่วยบำรุงสมอง ลดความเสี่ยงของการหลงลืม เพิ่มสมาธิ และความจำ

ประโยชน์อาหารเสริมน้ำมันปลา

สั่งซื้อเลย!

ขี้ลืม แก้ยังไง! รวมเคล็ดลับในการบำรุงสมอง

อาการขี้ลืมอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด แต่มีวิธีหลายอย่างที่สามารถช่วยบำรุงสมองและปรับปรุงความจำให้ดีขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ต้องจำรายละเอียดในการทำงานมากมายหรือเพียงแค่ต้องการเสริมสร้างความจำให้ดีขึ้นในชีวิตประจำวัน เคล็ดลับเหล่านี้สามารถช่วยคุณได้

1. รับประทานอาหารที่บำรุงสมอง

เลือกทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อสมอง เช่น น้ำมันปลา (Fish Oil) โอเมก้า-3 ที่พบในปลาแซลมอนและปลาทะเลน้ำลึก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และผักใบเขียวที่มีวิตามินบีและโฟเลต นอกจากนี้ ใบแปะก๊วยก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและเสริมสร้างความจำ

2. ออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเสริมสร้างความจำ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือการเดินเร็ว เป็นวิธีที่ดีในการบำรุงสมองและลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมของเซลล์สมอง

3. นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่สมองได้ฟื้นฟูและจัดเก็บข้อมูลที่ได้รับระหว่างวัน การนอนหลับให้เพียงพอทุกคืนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง จะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยลดปัญหาการขี้ลืม

4. จัดการความเครียด

ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความจำเสื่อมลง การฝึกการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การฝึกหายใจลึก ๆ หรือการทำโยคะ สามารถช่วยลดความเครียดและช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

5. ฝึกสมองด้วยการทำกิจกรรมที่ท้าทาย

การฝึกสมองด้วยการเล่นเกมฝึกความจำ การแก้ปริศนา หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นการทำงานของสมองและเสริมสร้างความจำ

6. หลีกเลี่ยงสารอันตราย

การหลีกเลี่ยงสารที่อาจทำลายสมอง เช่น แอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และสารเสพติด เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาสุขภาพสมองในระยะยาว

7. ใช้เทคนิคช่วยจำ

นอกจากปรับอาหารการกินและพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว การใช้เทคนิคช่วยจำ เช่น การทำบันทึก การตั้งเตือน หรือการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลใหม่กับสิ่งที่คุณรู้แล้ว สามารถช่วยให้คุณจำข้อมูลได้ดีขึ้น

สรุป

การป้องกันและแก้ปัญหาขี้ลืมไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยาก เพียงแค่คุณใส่ใจในการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสมองและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม การทำตามเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณรักษาความจำที่ดีและลดความเสี่ยงต่อการขี้ลืมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มต้นวันนี้เพื่อดูแลสมองของคุณให้ดีขึ้นและก้าวไปสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความจำที่ดีและความสุขที่ยั่งยืนกับ KLARITY

Article by

klarity asia