December 19, 2024
12 วิธีแก้สมองเบลอ ทำง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง ปลดล็อกสมองให้พร้อมใช้
หลายคนคงเคยรู้สึกสมองเบลอ ไม่มีสมาธิ หรือรู้สึกเหมือนทำอะไรก็ช้าไปหมด หรือที่เรียกว่า "สมองเบลอ" ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือแม้กระทั่งการทำงานหนักเกินไป แต่วันนี้ KLARITY มี 12 วิธีแก้สมองเบลอที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไทย ที่จะช่วยให้สมองกลับมาสดชื่น พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ!
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับให้เพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูสมอง หลายคนอาจคิดว่าแค่พักผ่อนเล็กน้อยก็พอ แต่ความจริงแล้ว การนอน 7-8 ชั่วโมงต่อคืนจะช่วยให้สมองมีเวลาพักผ่อนและซ่อมแซมตัวเอง ทำให้สมองสามารถทำงานได้เต็มที่ในวันถัดไป หากรู้สึกสมองเบลอในช่วงกลางวัน การนอนหลับพักสายตาสัก 15-20 นาทีก็ช่วยให้สดชื่นขึ้นในระหว่างวันได้เช่นกัน
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การขาดน้ำทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ สมองเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หากคุณรู้สึกสมองเบลอ การดื่มน้ำสะอาดเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับสมองได้ เนื่องจากสมองของเราประกอบด้วยน้ำมากถึง 75% การดื่มน้ำมากพอจะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นและช่วยป้องกันอาการปวดหัว
3. รับประทานอาหารที่ดีต่อสมอง
อาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสมอง เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา และไข่ รวมถึงผักผลไม้ที่มีวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยบำรุงสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างอาหารที่ดีต่อสมอง ได้แก่ ปลาทะเล ซึ่งอุดมไปด้วย Omega-3 ที่ช่วยเสริมการทำงานของสมอง
แนะนำ KLARITY Omega-3 Norway Daily ซึ่งเป็นแหล่ง Omega-3 ที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มพลังสมองและสมาธิให้ดีขึ้น
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ซึ่งทำให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ส่งผลให้การทำงานของสมองดีขึ้น การเดินเร็ว วิ่ง หรือทำโยคะก็ช่วยได้มากในการลดความเครียดและกระตุ้นสมองให้กลับมาฟื้นฟูได้ดี
5. ฝึกสมาธิ
สมาธิเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สมองกลับมามีความชัดเจน การนั่งสมาธิหรือฝึกการหายใจลึกๆ จะช่วยลดความเครียดและทำให้สมองกลับมามีสมาธิมากขึ้น วิธีนี้สามารถทำได้ทุกที่และไม่ต้องใช้เวลานาน ทำเป็นประจำทุกวันสัก 10-15 นาที
6. หลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีมากเกินไป
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุก ๆ ด้าน การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน ๆ ทำให้สมองเหนื่อยล้าและสมาธิลดลง ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีในช่วงเวลาที่ต้องการให้สมองพักผ่อน เช่น การตั้งเวลาให้หยุดใช้โทรศัพท์ก่อนนอน 1 ชั่วโมง จะช่วยให้สมองผ่อนคลายมากขึ้น
7. บำรุงสมองด้วยอาหารเสริมจากธรรมชาติ
การเสริมด้วยอาหารเสริมจากธรรมชาติ เช่น KLARITY Japan Ginkgo Biloba ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปยังสมองและช่วยเสริมความจำและสมาธิ หรือ Omega-3 ที่มีในน้ำมันปลาก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการฟื้นฟูสมองและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8. วางแผนการทำงาน
การวางแผนและจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นการลดภาระที่ทำให้สมองเบลอได้ ลองแบ่งงานที่ต้องทำออกเป็นหลายๆ ส่วน และจัดลำดับความสำคัญให้ดี เพื่อไม่ให้สมองแบกรับงานที่หนักเกินไป อีกทั้งยังทำให้ช่วยลดความเครียดและความกดดันลงได้
9. ฟังเพลงที่ช่วยกระตุ้นสมอง
ฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วหรือเพลงเบา ๆ ช่วยให้สมองผ่อนคลายและสดชื่นขึ้น การฟังเพลงที่คุณชอบในระหว่างทำงานหรือการเดินสามารถกระตุ้นการทำงานของสมองและทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น เช่น ดนตรีบรรเลง หรือ เสียงเพลงที่คลอกับเสียงธรรมชาติ
10. หยุดพักเมื่อรู้สึกเบื่อ
การทำงานหรือเรียนต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ อาจทำให้สมองเริ่มเบลอและไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองพักบ้างในระหว่างวัน เช่น พักดื่มชาหรือกาแฟ ออกไปเดินเล่นในสวนหรือทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อให้สมองกลับมาสดชื่น
11. ผ่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือไม่ใช่แค่การเรียนรู้ แต่ยังช่วยให้สมองผ่อนคลายและกระตุ้นจินตนาการ บางครั้งการอ่านหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับงานหรือการเรียน จะช่วยให้สมองพักผ่อนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ จนเกิดไอเดียใหม่ ๆ จนนำมาปรับใช้กับงานได้
12. ออกไปสัมผัสธรรมชาติ
หากคุณติดอยู่กับโต๊ะเรียนหรือโต๊ะทำงานตลอดเวลา แล้วมีอาการสมองเบลอ คิดงานช้า การใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติ เช่น การเดินเล่นในสวน ไปเที่ยวภูเขา ขึ้นดอย หรือเที่ยวทะเล กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียด เมื่อฮอร์โมนนี้ลดลง จะช่วยให้จิตใจและสมองผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกสงบและมีสมาธิมากขึ้น
สมองเบลอ หรือ Brain Fog เป็นอาการที่หลายคนมักจะรู้สึกเมื่อสมองไม่ค่อยทำงานได้เต็มที่ เช่น ความจำไม่ดี สมาธิลดลง หรือรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไข อาการเหล่านี้อาจลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพชีวิตได้ ดังนั้นการสังเกตและจัดการสมองเบลอแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้สมองกลับมาทำงานได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดผลเสียในระยะยาว |
สรุป
การที่สมองเบลอไม่ใช่เรื่องที่เราควรมองข้าม เพราะมันส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน วิธีการที่เราแนะนำทั้งหมดนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันและไม่ต้องใช้เวลามาก แค่คุณทำตาม 12 วิธีแก้สมองเบลอและดูแลตัวเองให้ดีตามที่กล่าวไป สมองของคุณก็จะกลับมาสุขภาพดีและเต็มไปด้วยพลังพร้อมทำงานอีกครั้ง
สำหรับตัวช่วยเสริมที่สามารถช่วยบำรุงสมองอย่าง KLARITY Japan Ginkgo Biloba และ KLARITY Omega-3 Norway Daily ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการดูแลสมองให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
อย่าลืมดูแลสมองของคุณให้ดีเพื่อการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพและสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วัน!