March 29, 2024

5 อันดับปลาที่คนไทยนิยมบริโภค แต่ละชนิดได้ปริมาณ Omega-3 เท่าไหร่บ้าง ?

5 อันดับปลาที่คนไทยนิยมบริโภค แต่ละชนิดได้ปริมาณ Omega-3 เท่าไหร่บ้าง ?

ปลา” เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพสมอง และร่างกาย เช่น บำรุงสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคข้ออักเสบ โรคอัลไซเมอร์ และโรคซึมเศร้า เป็นต้น แล้วมีปลาอะไรบ้างล่ะที่คนไทยนิยมบริโภคมากที่สุด

 

สารบัญ

  • 5 อันดับปลาที่คนไทยนิยมบริโภค 
    • ปริมาณโอเมก้า-3 (Omega-3) ของปลาแต่ละชนิดมีอยู่เท่าไหร่บ้าง ?
  • ดูแลสุขภาพสมองด้วยการทานปลา
  • สรุป

 

5 อันดับปลาที่คนไทยนิยมบริโภคมากที่สุด

  • ปลาทู : เป็นปลาทะเลน้ำลึกที่คนไทยนิยมมากที่สุด เนื่องจากราคาถูก หาซื้อง่าย และนำมาประกอบอาหารง่าย เช่น ปลาทูนึ่ง ปลาทูทอด

 

  • ปลาแซลมอน : เป็นปลาทะเลน้ำลึก พบมากในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ มีเนื้อสีแดงเข้ม มีไขมันสูง อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสมอง ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด

 

  • ปลากะพง : เป็นปลาทะเลน้ำลึก ที่มีเนื้อสีขาว รสชาติดี นิยมนำมาปรุงอาหารหลายชนิด เช่น ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลากะพงนึ่งมะนาว 

 

  • ปลาดุก : เป็นปลาทะเลน้ำจืดที่คนไทยนิยมนำมาปรุงอาหารอย่าง ยำปลาดุกฟู ปลาดุกผัดเผ็ด ปลาดุกต้มยำ

 

  • ปลาเก๋า : ปลาเก๋ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี วิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย

ซึ่งปลาแต่ละชนิดก็มีปริมาณโอเมก้า-3 (Omega-3) อยู่ไม่เท่ากัน แล้วปลาแต่ละชนิด อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่เท่าไหร่บ้างล่ะ

 

ปริมาณโอเมก้า-3 (Omega-3) ของปลาแต่ละชนิดมีอยู่เท่าไหร่บ้าง

ปริมาณของกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลาแต่ละชนิด (มก. : 100 กรัม)

  • ปลาทู : 1,636 มก.
  • ปลาแซลมอน : 1,000 - 1,700 มก.
  • ปลากะพง : 400 มก.
  • ปลาดุก : 258 มก.
  • ปลาเก๋า : 300 มก.

จะเห็นได้ว่า ปลาทูและปลาแซลมอนมีปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงที่สุด รองลงมาคือปลากะพง ปลาเก๋า และปลาดุก สามารถดูชนิดอื่น ๆ ได้ที่นี่

 

ประโยชน์ของโอเมก้า-3 (Omega-3)

กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องรับประทานจากแหล่งอาหารเท่านั้น กรดไขมันชนิดนี้จึงมีความสำคัญสำหรับร่างกายและสมอง โดยประโยชน์ของ Omega-3 มีอยู่ดังนี้

  • บำรุงสมอง พัฒนาความจำ ป้องกันอัลไซเมอร์และโรคซึมเศร้า
  • บำรุงสายตา ช่วยเรื่องการมองเห็น
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ
  • ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี และลดไขมันไม่ดีในร่างกาย
  • ลดอาการอักเสบ
  • พัฒนาสมอง

 

ดูแลสุขภาพสมองด้วยการทานปลา

คนไทยนิยมบริโภคปลาเป็นอาหารมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ในปัจจุบันมีเมนูอาหารที่หลากหลายมากขึ้น อาจทำให้ความนิยมในการทานปลาลดลง ส่งผลให้คนไทยได้รับปริมาณโอเมก้า-3 (Omega-3) ต่อวันไม่เพียงพอ จึงมีผลกระทบต่อสุขภาพสมองโดยตรง ดังนั้นการทานปลาเพื่อรับโอเมก้า-3 (Omega-3) เข้าสู่ร่างกายเป็นประจำ คือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรขาด เพื่อการรักษาสุขภาพสมองให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน

สรุป

นอกจากการทานปลาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถรับสารอาหารอย่างโอเมก้า-3 (Omega-3) เข้าร่างกายได้สะดวกกว่า และควบคุมได้ นั่นคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา แต่เราก็ควรมีวิธีเลือกน้ำมันปลาที่ดีมีคุณภาพ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลสมองของทุกคน

 

KLARITY ขอแนะนำ Omega-3 Norway Daily น้ำมันปลาบริสุทธิ์ ไร้สารปนเปื้อนทางชีวภาพ รวมถึงโลหะหนัก สกัดจากปลาทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติในประเทศนอร์เวย์ บรรจุไว้ในซอฟท์เจลขนาดเล็ก ทานง่าย ไร้กลิ่นคาวปลา มีส่วนประกอบของน้ำมันปลา 500 มก. กรดไขมัน EPA 175 มก. และ DHA 125 มก. ต่อเม็ด ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสม และควรได้รับต่อวัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของสุขภาพสมองของคนไทย

 

สั่งซื้อตอนนี้ คลิกเลย !

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมองของเราได้ที่นี่

Article by

KLARITY TEAM