November 18, 2024
สาเหตุอาการเหนื่อยง่าย เกิดจากอะไร? รู้สาเหตุพร้อมวิธีแก้ไข!
อาการเหนื่อยง่ายหรือรู้สึกอ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุชัดเจนอาจเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ บทความนี้ KLARITY จะพาคุณมาดูว่า “อาการเหนื่อยง่าย เกิดจากอะไร?” พร้อมวิธีแก้ไขเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมทำทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
อาการเหนื่อยง่าย สัญญาณอันตรายที่ละเลยไม่ได้!
ในยุคที่การทำงานหนักดูเป็นเรื่องปกติของคนไทยในปัจจุบัน ทำให้หลายคนเจอกับอาการเหนื่อยง่ายที่แม้นั่งอยู่กับที่แต่กลับรู้สึกล้าตลอดเวลา ซึ่งหากว่าคุณกำลังเจอปัญหานี้มานาน KLARITY ขอบอกเลยว่านี้ไม่ใช่เรื่องดี และเป็นหนึ่งในสัญญาณที่กำลังบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพภายใน
อาการเหนื่อยง่ายอาจเป็นสัญญาณของโรคหลากหลายประเภท ซึ่งสามารถสะท้อนถึงปัญหาสุขภาพที่สำคัญ อ้างอิงจากงานวิจัยต่าง ๆ ที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอาการเหนื่อยง่ายกับโรคที่เกี่ยวข้อง มีโรคที่พบบ่อยดังนี้
1. โรคหัวใจ (Heart Disease)
อาการเหนื่อยง่ายโดยเฉพาะหลังการออกกำลังกายเล็กน้อย หรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงเล็กน้อย อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งเกิดจากเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ
2. โรคปอด (Pulmonary Disease)
โรคปอด เช่น โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคถุงลมโป่งพอง สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย เนื่องจากระบบการแลกเปลี่ยนก๊าซของปอดทำงานได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้ออกซิเจนในเลือดลดลง
3. โรคโลหิตจาง (Anemia)
โลหิตจางเป็นภาวะที่ร่างกายขาดฮีโมโกลบินในเลือดเพียงพอ ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ลดลง ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้นกว่าปกติ ผู้ป่วยโลหิตจางมักมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และอาจมีอาการหน้ามืด หายใจถี่ เป็นผลจากการลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ
4. โรคไทรอยด์ (Thyroid Disorders)
โรคไทรอยด์ที่เกิดจากภาวะไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism) หรือไทรอยด์สูง (Hyperthyroidism) สามารถส่งผลให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่ายได้ เพราะระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายผิดปกติ ผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ต่ำมักมีระดับพลังงานต่ำ อ่อนเพลีย และรู้สึกเหนื่อยง่าย เนื่องจากกระบวนการผลิตพลังงานในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
5. โรคเบาหวาน (Diabetes)
โรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีส่งผลให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่าย เนื่องจากร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานจากน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่สมดุลอาจส่งผลให้ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้นในการทำงานพื้นฐาน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ
6. โรคซึมเศร้า (Depression) และปัญหาสุขภาพจิต (Mental Health Issues)
ภาวะซึมเศร้าหรือความเครียดเรื้อรังอาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าและเหนื่อยง่าย เนื่องจากระบบประสาทและระบบฮอร์โมนมีความผิดปกติ ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ามักมีอาการเหนื่อยง่ายและขาดพลังงานในการทำกิจกรรมประจำวัน เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเพิ่มสูงขึ้น
อาการเหนื่อยง่ายเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม หากมีอาการเหนื่อยง่ายอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
สาเหตุ อาการเหนื่อยง่าย เกิดจากอะไร?
อาการเหนื่อยง่าย เกิดจากภาวะที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยมักเกิดจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพกายและจิตใจ ดังนี้
ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ
การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ร่างกายไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน เนื่องจากระบบต่าง ๆ ของร่างกายไม่ได้พักฟื้นอย่างเหมาะสม การนอนหลับที่ไม่เพียงพออาจทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ลดความสามารถในการทำงานและการจดจ่อ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอและรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้น อ่านเพิ่ม..นอนดึกมีผลเสียอะไร
ความเครียดและภาวะทางจิตใจ
ความเครียดสะสมและปัญหาทางจิตใจ เช่น ความวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า สามารถทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่ายได้ เนื่องจากระบบประสาทและฮอร์โมนของร่างกายได้รับผลกระทบ ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด เช่น คอร์ติซอล จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระบบประสาทอยู่ในภาวะตื่นตัวตลอดเวลา ทำให้ร่างกายอ่อนล้าแม้จะไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก
ภาวะขาดสารอาหารและการขาดพลังงาน
การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี โอเมก้า 3 หรือโปรตีน ทำให้ร่างกายขาดพลังงานในการทำงานตามปกติ ภาวะขาดธาตุเหล็ก (โลหิตจาง) ส่งผลให้เลือดไม่สามารถลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย ส่วนการขาดโปรตีนหรือพลังงานจากอาหารก็ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายทำงานไม่เต็มที่และเกิดอาการอ่อนเพลียได้ง่าย
โรคประจำตัวที่เกี่ยวข้อง
โรคบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคไทรอยด์ หรือโรคเบาหวาน สามารถทำให้ร่างกายเกิดภาวะเหนื่อยง่าย เนื่องจากร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาสมดุลและรับมือกับโรคเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังทำให้ระบบการหายใจทำงานได้ไม่ดีพอ ร่างกายจึงได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ในขณะที่โรคหัวใจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่ต้องการ
อาการเหนื่อยง่ายเกิดจากการขาดน้ำได้หรือไม่?
นอกจากสาเหตุที่กล่าวไปข้างต้น อาการเหนื่อยง่ายยังสามารถเกิดจากการขาดน้ำได้ เนื่องจากน้ำเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การขาดน้ำแม้เพียงเล็กน้อยสามารถทำให้การทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและระบบกล้ามเนื้อลดลง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียได้มากขึ้น
เมื่อร่างกายขาดน้ำ เลือดจะมีความเข้มข้นมากขึ้น ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ผลที่ตามมาคือการไหลเวียนของออกซิเจนไปยังเซลล์ลดลง ร่างกายจึงรู้สึกอ่อนล้า นอกจากนี้ยังส่งผลให้ความสามารถในการทำกิจกรรมและความตื่นตัวลดลงอีกด้วย
สัญญาณอื่น ๆ ของการขาดน้ำ ที่อาจเกิดร่วมกับอาการเหนื่อยง่ายได้แก่ ปากแห้ง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ และปัสสาวะมีสีเข้ม หากพบอาการเหล่านี้ร่วมกับความเหนื่อยง่าย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดน้ำ
วิธีลดอาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย
หากคุณมีอาการเหนื่อยง่ายหรืออ่อนเพลียบ่อยครั้ง การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายและลดอาการเหล่านี้ได้ ดังนี้
พักผ่อนและนอนหลับให้เพียงพอ
การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายและฟื้นฟูระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย การนอนหลับที่เพียงพอ (ประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อคืนสำหรับผู้ใหญ่) จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้พักฟื้น ซ่อมแซมเซลล์ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การนอนให้เพียงพอยังช่วยลดอาการอ่อนเพลีย เพิ่มสมาธิและความกระปรี้กระเปร่าระหว่างวัน อ่านเพิ่ม..5 เทคนิคผ่อนคลายก่อนนอน
ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เสริมการซ่อมแซมร่างกาย
อาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้สด ธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีนไม่ติดมัน และไขมันดี มีส่วนช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นต่อการผลิตพลังงาน นอกจากนี้ควรเน้นการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินบี และวิตามินซี ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และช่วยลดความเหนื่อยล้าได้
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของออกซิเจนในเลือดดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตสารเอ็นโดรฟินที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและลดความเครียด ควรเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น เดินเร็ว วิ่งเบา ๆ หรือการออกกำลังกายแบบโยคะ ประมาณ 30 นาทีต่อวัน เพื่อเสริมสร้างความฟิตของร่างกาย
ทำกิจกรรมผ่อนคลายสมอง ลดความเครียด
ความเครียดสะสมอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย การทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิ การหายใจลึก ๆ หรือการทำโยคะ สามารถช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและไม่เหนื่อยง่าย ควรหาเวลาทำกิจกรรมผ่อนคลายเหล่านี้เป็นประจำ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ
เสริมพลังงานให้ร่างกายด้วยอาหารเสริม KLARITY
การรับประทานอาหารเสริมอย่าง KLARITY Omega-3 ซึ่งผลิตจากปลาทะเลน้ำลึกนอร์เวย์ มีประโยชน์ในการเสริมพลังงานและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่ร่างกายอาจขาดสารอาหารบางชนิด การเสริมด้วยโอเมก้า-3 จะช่วยลดการอักเสบของร่างกาย เสริมสุขภาพสมองและระบบประสาท ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและลดอาการเหนื่อยง่าย
เพิ่มพลังให้ร่างกายด้วย KLARITY Omega-3! เสริมสุขภาพสมอง หัวใจ และลดอาการเหนื่อยล้า ให้คุณพร้อมรับวันใหม่อย่างเต็มที่ทุกวัน คลิกซื้อเลยเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า!
|
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ใช้งานสมองหนักจนทำให้ร่างกายอ่อนล้า เพลียง่าย สามารถเสริมได้ด้วย Japan Ginkgo Biloba! สารสกัดใบแปะก๊วยคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น เสริมพลัง Antioxidant เพื่อสมองที่สดใสและการทำงานที่ดีในทุกวัน เพียงวันละ 1 แคปซูล ทานง่าย ดูแลสุขภาพครบครัน และสำหรับผู้สูงอายุควรเลือกอาหารเสริมให้เหมาะกับตัวเองโดยปรึกษาเภสัชกรเพิ่มเติม หรือ สอบถามมาที่ ติดต่อ KLARITY
ลดอาการเหนื่อยง่าย บำรุงสมองด้วย Japan Ginkgo Biloba! สารสกัดใบแปะก๊วยคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ช่วยให้คุณสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพียงวันละ 1 แคปซูล สั่งซื้อตอนนี้เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น!
|
อ่านบทความที่น่าสนใจ >> อาหารเสริมผู้สูงอายุ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
ต้องไปพบแพทย์เมื่อไรหากมีอาการเหนื่อยง่าย?
หากคุณรู้สึกเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน หรืออาการเหนื่อยง่ายนั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรพิจารณาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา โดยเฉพาะหากมีอาการร่วมอื่น ๆ ต่อไปนี้
- เหนื่อยง่ายร่วมกับอาการหายใจลำบาก เช่น หอบเหนื่อย หายใจถี่ หรือหายใจไม่อิ่ม อาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือหัวใจ
- รู้สึกเจ็บหน้าอก หรือมีอาการแน่นหน้าอก อาการนี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็ว
- เวียนศีรษะหรือหมดสติ อาการเหล่านี้อาจเกิดจากความดันโลหิตที่ไม่สมดุลหรือภาวะโลหิตจาง
- มีอาการบวมที่ขาหรือเท้า ซึ่งอาจเกิดจากการทำงานผิดปกติของหัวใจหรือไตที่ส่งผลให้เกิดการคั่งของของเหลวในร่างกาย
- น้ำหนักลดลงหรือเบื่ออาหารโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับภาวะโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวานหรือปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
- อาการเหนื่อยง่ายที่เป็นต่อเนื่องหรือแย่ลงเรื่อย ๆ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีแนวโน้มแย่ลง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา
สรุป
สาเหตุของอาการเหนื่อยง่าย เกิดได้ทั้งจากปัญหาสุขภาพ ไลฟ์สไตล์การทำงานหนัก รวมทั้งอาหารการกิน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามไปเป็นโรคเรื้อรังในอนาคต ควรปรับพฤติกรรมการกินและใช้ชีวิตให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำ