January 25, 2025

มือชาเกิดจากอะไร? สาเหตุและวิธีดูแลที่คุณควรรู้

มือชาเกิดจากอะไร

มือชาคืออาการที่หลายคนอาจเคยเจอ ไม่ว่าจะเกิดจากการนั่งท่าทางผิด หรือความเครียดในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากอาการนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรหาคำตอบว่า มือชานั้นเกิดจากอะไร? และจะดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลจากอาการนี้ สำหรับบางคน มือชาอาจไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ แต่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการใส่ใจ ดังนั้น บทความนี้ KLARITY จะพาไปรู้จักสาเหตุและวิธีการดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สาเหตุของอาการมือชา

อาการมือชาไม่ใช่แค่ความรู้สึกผิดปกติที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด อาการมือชาสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางสาเหตุอาจเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็อาจบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย มาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้

สาเหตุของอาการมือชา

เส้นประสาทถูกกดทับ

เส้นประสาทที่ถูกกดทับเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการมือชา การกดทับสามารถเกิดขึ้นได้จากการนั่งหรือการทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งขัดสมาธิเป็นเวลานาน หรือการถือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม 

การกดทับเหล่านี้ทำให้เส้นประสาทในมือได้รับการกดดันและทำให้เกิดอาการชาได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการบาดเจ็บที่เส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อในบริเวณคอหรือไหล่ที่ส่งผลกระทบไปยังแขนและมือ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการชา ความรู้สึกเจ็บปวด หรือแม้กระทั่งอาการอ่อนแรงในมือ

การไหลเวียนเลือดผิดปกติ

การไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมือชาได้เช่นกัน เมื่อเลือดไม่สามารถหมุนเวียนไปเลี้ยงมือได้อย่างเพียงพอ อาจทำให้มือขาดออกซิเจนและสารอาหารที่จำเป็น ส่งผลให้เกิดอาการชาได้ การนั่งหรือยืนในท่าทางที่ค้างคามานานเกินไป การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป หรือการนั่งขับรถเป็นเวลานานโดยไม่มีการขยับตัว อาจทำให้การไหลเวียนเลือดในมือผิดปกติ และเกิดอาการชาได้

ขาดวิตามิน

การขาดวิตามินบางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการมือชาได้ โดยเฉพาะวิตามินบี 12 โอเมก้า-3 และวิตามินดี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบำรุงเส้นประสาทและการไหลเวียนเลือด หากขาดสารอาหารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการเสื่อมของเส้นประสาทได้ ส่งผลให้เกิดอาการชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเจ็บปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

อ่านเพิ่ม สัญญาณของอาการขาดโอเมก้า 3  

โรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้อง

หลายโรคเรื้อรังสามารถมีผลต่อระบบประสาทและการไหลเวียนเลือดในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการมือชาได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคข้อเสื่อม โรคปลอกหุ้มเส้นประสาทเสื่อม การมีความรู้และระมัดระวังเกี่ยวกับโรคเหล่านี้สามารถช่วยให้เรารู้ว่าอาการมือชาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากปัจจัยไหน และจะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที

วิธีดูแลและป้องกันมือชาแบบง่าย ๆ

หากคุณกำลังประสบกับอาการมือชา และต้องการหาวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต มีวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการรักษาหรือยาที่ซับซ้อน ลองมาดูวิธีที่คุณสามารถทำได้เพื่อดูแลมือของคุณให้ห่างไกลจากอาการชา

วิธีดูแลและป้องกันมือชาแบบง่าย ๆ

ยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง

การนั่งทำงานหรือยืนเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่ขยับตัวอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการมือชา ดังนั้นควรยืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกายและบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ลองหยุดพักทุก ๆ 30-60 นาที และทำการยืดเหยียดแขน มือ และข้อมือ เช่น การยืดมือไปข้างหน้าและข้อมือข้างหนึ่ง การหมุนข้อมือ หรือการยืดกล้ามเนื้อแขนออกไปข้างหน้า จะช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้รับการผ่อนคลาย และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการชา

ทานอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นประสาทและการไหลเวียนเลือดสามารถช่วยลดอาการมือชาได้ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 วิตามินดี และกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งมีบทบาทในการสนับสนุนการทำงานของระบบประสาทและเสริมการไหลเวียนเลือด เช่น อาหารทะเล ปลาแซลมอน ไข่ ไก่ และอาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง รวมถึงอาหารที่มีวิตามินดี เช่น เห็ด และอาหารเสริมที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่น เมล็ดเจีย อัลมอนด์ และปลาทะเล

บริหารมือและข้อมือ

การบริหารมือและข้อมือเป็นวิธีที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการชา และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต ลองทำการบริหารกล้ามเนื้อมือและข้อมือเป็นประจำ เช่น การบีบและปล่อยมือให้บีบเล็กน้อย การขยับข้อมือไปข้างหน้าและข้างหลัง การทำท่าเหยียดนิ้วและข้อมือทุกวัน จะช่วยให้กล้ามเนื้อมือและข้อมือได้รับการผ่อนคลาย และการไหลเวียนเลือดดีขึ้น

ไปพบแพทย์เมื่ออาการรุนแรง

หากอาการมือชาเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือมีความรุนแรง เช่น มือชามากจนไม่สามารถขยับได้ หรือมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง บางครั้งอาการมือชาอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษาทันที เช่น โรคเส้นประสาทอักเสบ โรคข้อเสื่อม หรือโรคที่เกี่ยวกับการไหลเวียนเลือด ดังนั้นการตรวจสอบและขอคำแนะนำจากแพทย์จะช่วยให้สามารถรักษาและป้องกันอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รู้ก่อนยากเกินแก้!  วิธีการดูแลรักษาระบบประสาทและสมอง

อาการมือชาแบบไหนที่ควรระวัง?

อาการมือชาอาจดูเหมือนเป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่รุนแรง แต่หากมีอาการร่วมอื่น ๆ หรืออาการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ซึ่งควรตรวจสอบโดยแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ต่อไปนี้คืออาการมือชาที่คุณควรระวัง

  • มือชาร่วมกับอาการอ่อนแรง นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาท เช่น โรคเส้นประสาทถูกกดทับ 
  • ชาบริเวณแขนหรือขาไปพร้อมกัน บ่งบอกถึงปัญหาที่เกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง หรือการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติ
  • ชารุนแรงหลังอุบัติเหตุ อาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บของเส้นประสาท หรือกระดูกที่ได้รับผลกระทบจากการกระแทก 

สรุป

มือชาเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใช้มือในท่าที่ไม่ถูกต้อง การขาดวิตามิน หรือแม้แต่โรคบางชนิด การดูแลตัวเองด้วยการยืดเส้นยืดสาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และไปพบแพทย์เมื่ออาการไม่ดีขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาการมือชาและป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นบ่อย ๆ

Article by

klarity asia