May 20, 2025

LDL Cholesterol คืออะไร? ไขมันไม่ดีที่ควรระวัง!

LDL Cholesterol คืออะไร

LDL คืออะไร? ทำไมแพทย์จึงเรียกว่า "ไขมันเลว"? และเราควรกังวลเกี่ยวกับระดับ LDL ในเลือดมากแค่ไหน?

หากคุณเคยตรวจสุขภาพประจำปีและได้รับผลตรวจเลือดที่มีการวัดระดับ "LDL" คุณอาจสงสัยว่า LDL คืออะไร และทำไมค่านี้จึงสำคัญต่อสุขภาพของคุณ บทความนี้ KLARITY จะพาคุณเจาะลึกเรื่อง LDL Cholesterol คืออะไร ทำไมมันถึงได้ชื่อว่าเป็น "ไขมันเลว" และวิธีจัดการเมื่อระดับ LDL ของคุณสูงเกินไป

ไขมันในเลือดคืออะไร? ทำไมเราควรใส่ใจ

คอเลสเตอรอลเป็นสารไขมันที่ร่างกายเราสร้างขึ้นเองตามธรรมชาติ และยังได้รับจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปด้วย หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าคอเลสเตอรอลเป็นสิ่งไม่ดีเสมอไป แต่ความจริงแล้ว คอเลสเตอรอลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อร่างกาย เพราะเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยในการสร้างฮอร์โมนต่าง ๆ และวิตามินดี ปัญหาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงเกินไปนั่นเอง

คอเลสเตอรอลดี VS คอเลสเตอรอลเลว

คอเลสเตอรอลไม่สามารถละลายในเลือดได้เอง จึงต้องอาศัย "โปรตีนพาหะ" พาเดินทางไปตามกระแสเลือด เกิดเป็นสารประกอบที่เรียกว่า "ไลโปโปรตีน" ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก

คอเลสเตอรอลดี VS คอเลสเตอรอลเลว
  • HDL (High-Density Lipoprotein) หรือ "ไขมันดี" มีหน้าที่เก็บกวาดคอเลสเตอรอลส่วนเกินจากเนื้อเยื่อต่าง ๆ กลับไปยังตับเพื่อกำจัดออก เปรียบเสมือนรถขยะที่คอยทำความสะอาดหลอดเลือด
  • LDL (Low-Density Lipoprotein) หรือ "ไขมันเลว" เป็นตัวนำพาคอเลสเตอรอลไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย หากมีมากเกินไปจะเกิดการสะสมที่ผนังหลอดเลือด ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

ผลกระทบของไขมันในเลือดที่สูงเกินไป

เมื่อระดับไขมันในเลือดไม่สมดุล โดยเฉพาะการมี LDL สูงเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ มากมาย อาทิ

ไขมันในเลือดที่สูง
  • โรคหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis)
  • โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  • โรคหัวใจขาดเลือด
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • โรคความดันโลหิตสูง

การดูแลระดับไขมันในเลือดให้สมดุลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้าม แต่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อสุขภาพในระยะยาว

LDL คือ ไขมันเลวที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

LDL คือ Low-Density Lipoprotein หรือไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ เป็นโปรตีนพาหะที่มีความหนาแน่นต่ำ ทำหน้าที่ลำเลียงคอเลสเตอรอลจากตับไปยังเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โครงสร้างของ LDL ประกอบด้วยแก่นกลางที่มีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ล้อมรอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่า "อะโพโปรตีน" (Apoprotein)

เนื่องจากมีความหนาแน่นต่ำ LDL จึงมีแนวโน้มที่จะแทรกซึมเข้าไปสะสมในผนังหลอดเลือด โดยเฉพาะในจุดที่มีการอักเสบหรือบาดเจ็บ

ทำไม LDL ถึงถูกเรียกว่า "ไขมันเลว"

LDL ได้รับฉายา "ไขมันเลว" เพราะเมื่อมีปริมาณมากเกินไปในกระแสเลือด มันจะแทรกซึมเข้าไปในผนังหลอดเลือดแดง และเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ทำให้เกิดการอักเสบ เซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะพยายามกำจัด LDL ที่ถูกออกซิไดซ์เหล่านี้ แต่กลับกลายเป็นการสร้างเซลล์โฟม (Foam cells) และก่อให้เกิดคราบไขมัน (Fatty streak) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดแผ่นพลาค (Plaque) ในหลอดเลือด

ไขมันเลวที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

ผลกระทบของ LDL สูงต่อร่างกายและหลอดเลือด

เมื่อระดับ LDL ในเลือดสูงเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ ดังนี้:

  • การสะสมของคราบไขมัน  LDL ที่สะสมในผนังหลอดเลือดจะถูกเซลล์ภูมิคุ้มกันดูดกลืนจนกลายเป็นเซลล์โฟม (Foam cells) ซึ่งรวมตัวกันเป็นคราบไขมัน ไขมันสะสมเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ และลดความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด
  • การอักเสบเรื้อรัง  LDL ที่ถูกออกซิไดซ์จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้เกิดการอักเสบในผนังหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง
  • การเกิดลิ่มเลือด เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดเฉียบพลัน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (หัวใจวาย) หรือสมองขาดเลือด (Stroke)
  • ความดันโลหิตสูง (Hypertension) เมื่อหลอดเลือดตีบและแข็งตัว หัวใจต้องสูบฉีดเลือดด้วยแรงมากขึ้นเพื่อให้เลือดไหลผ่าน ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นในระยะยาว

ค่าที่เหมาะสมตามคำแนะนำทางการแพทย์

ค่าระดับ LDL ในเลือดที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยเสี่ยงของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว สมาคมโรคหัวใจแนะนำดังนี้

  • น้อยกว่า 100 mg/dL - ระดับที่เหมาะสม (Optimal)
  • 100-129 mg/dL - ระดับใกล้เคียงที่เหมาะสม (Near optimal)
  • 130-159 mg/dL - ระดับค่อนข้างสูง (Borderline high)
  • 160-189 mg/dL - ระดับสูง (High)
  • มากกว่า 190 mg/dL - ระดับสูงมาก (Very high)

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์อาจแนะนำให้ควบคุมระดับ LDL ให้ต่ำกว่า 70 mg/dL

วิธีลด LDL อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

การควบคุมระดับ LDL เริ่มต้นได้ที่จานอาหารประจำวัน

  • เลือกไขมันดี หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ เช่น น้ำมันปาล์ม เนื้อสัตว์ติดมัน มาการีน และขนมอบ หันมาบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวจากน้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา อะโวคาโด ถั่ว และเมล็ดพืช
  • เพิ่มใยอาหาร ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และถั่ว ช่วยจับคอเลสเตอรอลส่วนเกินและขับออกจากร่างกาย
  • เลือกโปรตีนคุณภาพดี ลดเนื้อแดงและเนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เปลี่ยนเป็นปลา ถั่ว และโปรตีนจากพืช
  • ลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี อาหารหวานและแป้งขัดขาว เช่น ขนมปังขาว ข้าวขัดสี เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ และอาจลด HDL ซึ่งเป็นไขมันดี

KLARITY Omega-3 Norway |เสริมการดูแล LDL จากธรรมชาติ

โอเมก้า-3 โดยเฉพาะกรดไขมัน EPA และ DHA มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มขนาดอนุภาคของ LDL ให้มีความเสี่ยงต่อหลอดเลือดน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยเสริม HDL (ไขมันดี)

KLARITY Omega-3 Norway Daily

KLARITY Omega-3 Norway Daily
  • ให้ EPA และ DHA ในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน
  • เหมาะสำหรับดูแลสุขภาพหัวใจในชีวิตประจำวัน
  • ช่วยควบคุมไขมันในเลือดและลดการอักเสบ
 

สั่งซื้อ KLARITY Omega-3 Norway Daily ที่นี่

KLARITY Omega-3 Norway Ultra + Astaxanthin

KLARITY Omega-3 Norway Ultra + Astaxanthin
  • โอเมก้า-3 เข้มข้น ผสานกับ Astaxanthin สารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง
  • เสริมการปกป้องหลอดเลือด และชะลอความเสื่อมของเซลล์
  • ลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ
 

สั่งซื้อ KLARITY Omega-3 Norway Ultra + Astaxanthin ที่นี่


สรุป

LDL หรือ “ไขมันเลว” เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด หากสะสมในร่างกายมากเกินไปอาจนำไปสู่อาการอุดตันของหลอดเลือด การควบคุมระดับ LDL จึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพระยะยาว

การลด LDL อย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรม ทั้งการกินอาหารที่ดีต่อหัวใจ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และลดแอลกอฮอล์

KLARITY Omega-3 จากนอร์เวย์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยดูแลหัวใจ ด้วยโอเมก้า-3 คุณภาพสูงจากแหล่งน้ำสะอาด ช่วยควบคุมไขมันในเลือด ลดการอักเสบ และเสริมสุขภาพหัวใจในระยะยาว เริ่มต้นดูแล LDL วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีและหัวใจที่แข็งแรงในวันข้างหน้า

Article by

klarity asia