July 23, 2025
มือชาขาดวิตามินอะไร? มาแก้กันให้หายขาด!

"โอ๊ย! มือชาอีกแล้ว!" ใครเคยเจออาการแบบนี้บ้าง? จู่ ๆ ก็รู้สึกยิบ ๆ เหมือนมดไต่ มือชาจนบางทีหยิบจับอะไรก็ไม่มีแรง อาการมือชานี่แหละที่กวนใจสุด ๆ หลายคนจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า "นี่ฉันขาดวิตามินอะไรรึเปล่าเนี่ย?" บอกเลยว่าคุณคิดถูกแล้ว! เพราะหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้มือชา คือ การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะ "กลุ่มวิตามินบี" ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทเราโดยตรง วันนี้ KLARITY เราจะพามาเจาะลึกกันเลยว่ามือชาขาดวิตามินอะไร แก้ยังไง และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกได้ยังไงบ้าง!
มือชาเกิดจากอะไรได้บ้าง? มาทำความเข้าใจกันก่อน!
อาการชามือคือความรู้สึกผิดปกติที่ผิวหนัง อาจเป็นแค่ชั่วคราวหรือเรื้อรังก็ได้ สาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยมีดังนี้การ
การกดทับเส้นประสาท
- การนั่งหรือนอนทับแขน/มือนาน ๆ
- กระดูกคอทับเส้นประสาท หรือหมอนรองกระดูกคอเสื่อม
ปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด
- ภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (Peripheral Artery Disease - PAD)
- โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลสูงทำลายเส้นประสาทและหลอดเลือด
โรคและภาวะทางการแพทย์อื่น ๆ
- โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) ซึ่งอาจเกิดจากเบาหวาน, การติดเชื้อ, สารพิษ หรือ การขาดวิตามิน
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
หมายเหตุ! เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติม
อ่านต่อได้ที่ มือชาเกิดจากอะไร? สาเหตุและวิธีดูแลที่คุณควรรู้
มือชาเพราะขาดวิตามินอะไรกันแน่?
ถ้ามือชาบ่อย ๆ โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน ลองเช็กเลยว่าคุณได้รับวิตามินเหล่านี้พอรึเปล่า โดยเฉพาะ "วิตามินบี" ตัวท็อปที่ดูแลระบบประสาทเราโดยตรง

วิตามินบี 1 (ไทอามีน)
ตัวนี้เหมือนเป็นพลังงานหลักให้ระบบประสาทและสมอง ทำให้การส่งสัญญาณประสาทลื่นไหล ไม่มีสะดุด ถ้าขาดหนัก ๆ อาจถึงขั้นเป็น โรคเหน็บชา (Beriberi) เลยนะ
โดยหากขาดไปจะทำให้มีอาการชาตามมือเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง แถมยังอาจส่งผลถึงหัวใจด้วย ใครที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ (เพราะแอลกอฮอล์จะมาแย่งวิตามินบี 1 ไปใช้หมด!) หรือชอบกินแต่ข้าวขาว อาจขาดได้นะ ลองหาหมู เนื้อ ปลา ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว มาเติมให้ร่างกายเพิ่ม
วิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน)
ตัวช่วยสำคัญในการสร้างสารสื่อประสาท ทำให้สมองและเส้นประสาททำงานได้ดี แถมยังสำคัญกับการสร้างปลอกไมอีลิน ที่เป็นเหมือนเกราะหุ้มเส้นประสาทเราอีกด้วย ถ้าขาดอาจทำให้ ปลายประสาทอักเสบ มีอาการชา ยิบ ๆ เสียวซ่าตามมือเท้าได้ นอกจากนี้อาจมีปัญหาผิวหนังอักเสบ หรือโลหิตจางด้วยนะ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือคนที่กินยาบางชนิด อาจขาดได้ ลองกินเนื้อสัตว์ ปลา ไก่ มันฝรั่ง กล้วย ถั่ว และเมล็ดทานตะวันเพิ่มดู
วิตามินบี 12 (โคบาลามิน)
ตัวนี้คือพระเอกเลย! สำคัญสุด ๆ กับระบบประสาท ช่วยสร้างปลอกไมอีลินหุ้มเส้นประสาท ทำให้สัญญาณวิ่งฉิว ไม่ติดขัด แถมยังจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงด้วย ถ้าขาดนี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด ภาวะปลายประสาทอักเสบ ที่มีอาการชาตามมือและเท้าอย่างรุนแรงเลยล่ะ อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเซ ความจำไม่ดี อารมณ์แปรปรวน และมีภาวะซีด (โลหิตจาง) ร่วมด้วย ใครเป็นสายมังสวิรัติหรือวีแกน ผู้สูงอายุ คนที่มีปัญหาลำไส้ หรือคนที่กินยาบางชนิด เช่น ยาลดกรด หรือยาเบาหวานบางตัว อาจขาดได้นะ ต้องหาเสริมจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ ชีส ปลา ตับ และหอย
วิตามินอี
เป็นซูเปอร์ฮีโร่ สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทของเราไม่ให้โดนทำร้าย ถ้าขาดนานๆ อาจทำให้เส้นประสาทเสียหาย ชา สูญเสียการทรงตัว และกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ ปกติพบน้อยในคนทั่วไป ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนที่มีปัญหาการดูดซึมไขมันเรื้อรัง ลองกินน้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน ถั่ว เมล็ดพืช และผักใบเขียวเข้มดูนะ (อ่านเพิ่ม! 10 อาหารต้านอนุมูลอิสระ)
แคลเซียม และ แมกนีเซียม
ถึงจะไม่ใช่วิตามิน แต่แร่ธาตุสองตัวนี้ก็สำคัญกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อมาก ๆ ช่วยให้การส่งสัญญาณประสาททำงานได้ปกติ ถ้าขาดอาจทำให้เป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก หรือมีอาการชา ยิบ ๆ ได้ ลองหาแคลเซียมจากนม โยเกิร์ต ชีส ผักใบเขียว และแมกนีเซียมจากผักใบเขียว ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืชไม่ขัดสี ช็อกโกแลตเข้มมาเติม
บำรุงสมองและระบบประสาทให้แข็งแรงด้วย ![]() 3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจาก KLARITY ที่คัดสรรมาเพื่อช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูการทำงานของสมองและระบบประสาทให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับความท้าทายในแต่ละวัน |
ถ้าชายังไม่หาย...เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอด่วน?
ถ้าคุณมีอาการมือชาเรื้อรัง ชาหนักขึ้นเรื่อย ๆ มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินเซ ทรงตัวไม่อยู่ ปวดรุนแรง หรือสงสัยว่าเกิดจากโรคอะไรที่ร้ายแรง ห้ามรอช้า! ควรรีบไปพบแพทย์ทันที การปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ปัญหาลุกลามและรักษายากขึ้นได้นะ
คุณหมอจะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น เจาะเลือดเช็กวิตามิน ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) หรือเอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับคุณที่สุด
ไม่อยากมือชาอีกแล้ว? มาป้องกันกัน!
การป้องกันดีกว่าแก้เสมอ มาดูกันว่าทำยังไงไม่ให้มือชากลับมากวนใจอีก
- กินดี มีประโยชน์ กินอาหารให้หลากหลายและครบถ้วน เน้นผัก ผลไม้สด ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ถั่ว และเมล็ดพืชเป็นประจำทุกวัน ร่างกายจะได้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นครบถ้วน
- งดแอลกอฮอล์บ้าง แอลกอฮอล์ตัวร้ายชอบแย่งวิตามินบีไปจากร่างกาย การลดหรือเลิกดื่มจะช่วยรักษาสมดุลวิตามินได้ดี
- ดูแลลำไส้ให้ดี ระบบย่อยอาหารที่ดีคือประตูสู่การดูดซึมสารอาหาร ถ้ามีปัญหาท้องไส้ ควรปรึกษาหมอ
- เช็กยาที่กิน ยาบางชนิดอาจส่งผลต่อการดูดซึมวิตามิน ลองปรึกษาหมอหรือเภสัชกรเรื่องผลข้างเคียงของยาที่คุณใช้อยู่
- ขยับตัวบ้าง ออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยให้เลือดไหลเวียนดี เส้นประสาทก็แข็งแรงขึ้นด้วย
- จัดการความเครียด เครียดบ่อย ๆ ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้หลายอย่าง รวมถึงการดูดซึมสารอาหาร หาเวลาพักผ่อน ทำสิ่งที่ชอบ หรือฝึกหายใจคลายเครียดบ้าง
สรุป
อาการมือชาไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายเรากำลังขาดวิตามิน โดยเฉพาะ วิตามินบี 1, บี 6, และบี 12 รวมถึงวิตามินอี และแร่ธาตุอย่างแคลเซียมกับแมกนีเซียม การกินอาหารให้หลากหลายครบถ้วนคือหัวใจสำคัญในการดูแลตัวเอง แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการน่ากังวลอื่น ๆ การปรึกษาคุณหมอคือทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้เส้นประสาทและร่างกายของเรากลับมาแข็งแรง หายชา สบายมือกัน!