September 21, 2025
12 วิธีลดการอักเสบในร่างกาย รีเฟรชร่างกายให้แข็งแรง สดใส

ร่างกายของเราทำงานตลอดเวลาเพื่อซ่อมแซมและปกป้องตัวเองจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ แต่ในบางครั้ง ระบบภูมิคุ้มกันอาจทำงานมากเกินไปจนเกิด การอักเสบ (Inflammation) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายเกิดความเจ็บปวด ความเหนื่อยล้า และอาจนำไปสู่โรคร้ายต่าง ๆ การรู้จักวิธีลดการอักเสบและปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ
บทความนี้ KLARITY จะพาคุณไปรู้จักการอักเสบ อาการที่บ่งบอก และ 12 วิธีลดการอักเสบในร่างกาย เพื่อให้คุณรีเฟรชร่างกายให้แข็งแรง สดใส พร้อมแนะนำอาหารเสริมคุณภาพจาก KLARITY ที่ช่วยดูแลร่างกายคุณอย่างตรงจุด
การอักเสบคืออะไร?
การอักเสบคือกระบวนการทางธรรมชาติที่ร่างกายใช้เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค บาดแผล สารพิษ หรือสารก่อภูมิแพ้ แต่การอักเสบไม่ได้มีแต่ข้อดี เพราะหากเกิดขึ้นเรื้อรัง หรือเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน ร่างกายจะอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา
การอักเสบมี 2 แบบหลัก ๆ
- การอักเสบเฉียบพลัน (Acute inflammation): เกิดขึ้นทันทีหลังจากร่างกายได้รับบาดเจ็บหรือเชื้อโรค มักหายได้เองเมื่อร่างกายฟื้นตัว
- การอักเสบเรื้อรัง (Chronic inflammation): เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน มักไม่แสดงอาการชัดเจน แต่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิด
อาการที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังอักเสบ
หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังมีการอักเสบเรื้อรังอยู่ภายในร่างกาย อาการที่สังเกตได้มีดังนี้
- รู้สึก เหนื่อยง่าย และไม่มีพลังงาน
- ปวด ข้อหรือกล้ามเนื้อ โดยไม่ทราบสาเหตุ
- มี ผื่นหรือปัญหาผิวหนัง เช่น แดง แห้ง คัน
- ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ เช่น ท้องอืด ท้องเสีย
- มีอาการ บวมน้ำ หรือท้องอืดเรื้อรัง
- น้ำหนักเพิ่มหรือร่วงผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ
หากคุณมีอาการเหล่านี้เป็นระยะเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์และให้ความสำคัญกับการปรับไลฟ์สไตล์ รวมทั้งเลือกอาหารเสริมที่ตรงจุดเพื่อช่วยลดการอักเสบ
12 วิธีลดการอักเสบในร่างกาย
12 วิธีลดการอักเสบในร่างกาย สามารถเริ่มได้วันนี้ด้วยการปรับวิถีชีวิต อาหารการกิน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้

1. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นกุญแจสำคัญต่อการลดการอักเสบ ร่างกายจะทำการซ่อมแซมระหว่างนอนหลับ การอดนอนหรือนอนน้อยจะทำให้ปัญหาการอักเสบในร่างกายสูงขึ้น ควรนอนวันละ 7–9 ชั่วโมง สร้างกิจวัตรก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบา ๆ ลดการใช้หน้าจอและมือถือก่อนนอน
2. กินอาหารให้ครบและมีประโยชน์
อาหารที่ดีช่วยลดการอักเสบได้อย่างชัดเจน เน้น ผักและผลไม้สดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เลือกโปรตีนคุณภาพ เช่น ปลา ไก่ ถั่ว จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายพร้อมต้านอนุมูลอิสระตัวการที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอจนอักเสบ
3. เสริมด้วยโอเมก้า 3
โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและบำรุงหัวใจ สมอง และดวงตา การทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยควบคุมการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง KLARITY ได้คัดสรรโอเมก้า 3 คุณภาพระดับโลกจากนอร์เวย์มาให้คุณได้เลือกเสริมกันทั้ง 2 สูตร
- KLARITY Omega-3 Norway Daily: เหมาะกับการบำรุงร่างกายทุกวัน เพื่อสุขภาพสมองที่ดี ลดการอักเสบของสมองและร่างกาย
- KLARITY Omega-3 Norway Ultra + Astaxanthin: เพิ่มคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเครียดออกซิเดชันในร่างกาย บำรุงล้ำลึกระดับเซลล์

4. เสริมด้วยอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ ตัวอย่างอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: บลูเบอร์รี, สตรอว์เบอร์รี, ผักใบเขียว, ถั่ว, เมล็ดพืช (อ่านเพิ่ม อาหารต้านอนุมูลอิสระ)
5. เล่นโยคะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำช่วยลดสารอักเสบและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เลือกกิจกรรมที่ชอบ เช่น โยคะ พิลาทิส เดินเร็ว ว่ายน้ำ ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ไม่ควรออกหนักเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดการอักเสบจากการใช้งานมาก
6. จัดการความเครียดสะสม
ความเครียดเรื้อรังทำให้ระดับ คอร์ติซอล สูง ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ วิธีลดการอักเสบในร่างกายที่เกิดจากความเครียดแนะนำให้ทำสมาธิหรือฝึกการหายใจลึก ๆ ประจำทุกวัน หรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง ออกไปเดินเล่น หรือท่องเที่ยว
7. ลดหวาน เลี่ยงน้ำตาล
ใครติดหวานต้องระวังร่างกายอักเสบ เพราะน้ำตาลสูงกระตุ้นการอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง ดังนั้นควรลดเครื่องดื่มหวาน ขนมหวาน และอาหารสำเร็จรูป อ่านฉลากอาหารเพื่อตรวจปริมาณน้ำตาลก่อนกินทุกครั้ง
8. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
น้ำช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างราบรื่น ควรดื่มน้ำวันละ 1.5–2 ลิตร แนะนำให้เลือกเป็นน้ำสะอาดอุณหภูมิห้องไม่ควรกินน้ำเย็นเป็นประจำ หรือกินน้ำหวานแทนน้ำเปล่า
9. งดเหล้า บุหรี่
แอลกอฮอล์และบุหรี่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ หากพบว่าตนเองมีอาการอักเสบ ควรงดบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ การเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบในร่างกายและเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
10. พาร่างกายไปสัมผัสธรรมชาติ
การอยู่ในธรรมชาติช่วยลดความเครียดและส่งผลดีต่อร่างกาย การรับแสงแดดอ่อน ๆ ช่วยสร้างวิตามินดี ซึ่งสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน ใครที่อยากสุขภาพกายและใจดีแนะนำให้หาเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า ออกไปสวนสาธารณะ หรือปลูกต้นไม้
11. ลดของมัน ของทอด อาหารแปรรูป
ไขมันทรานส์และอาหารแปรรูปเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ ควรลดเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน และเลือกอาหารที่ปรุงสุกด้วยวิธีต้ม นึ่ง หรืออบ รวมทั้งใส่ใจคุณภาพของไขมันที่กิน หันมาใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันรำข้าวแทนในการปรุงอาหาร
12. ปรึกษาแพทย์และตรวจสุขภาพประจำปี
การตรวจสุขภาพช่วยให้คุณทราบระดับการอักเสบและความเสี่ยงโรคเรื้อรัง อีกทั้งการติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันการอักเสบเรื้อรังในระยะยาว
สรุป
การอักเสบเป็นกระบวนการธรรมชาติ แต่หากเกิดขึ้นเรื้อรังจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ การปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม ทั้งการพักผ่อน ออกกำลังกาย ลดความเครียด เลือกอาหารที่มีประโยชน์ และงดสิ่งกระตุ้นการอักเสบ เป็นวิธีสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สดใส
เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ปรับพฤติกรรมและเลือกอาหารเสริมที่เหมาะสม แล้วคุณจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า พร้อมรับมือกับทุกวันอย่างเต็มที่
อ้างอิงข้อมูลจาก
-
https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/21660-inflammation