September 23, 2025

แอสตาแซนธิน กินคู่กับอะไรดี? 5 ตัวช่วยดูดซึม เสริมการทำงาน

แอสตาแซนธิน กินคู่กับอะไรดี

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยลดการอักเสบ บำรุงสมอง ดวงตา และผิวพรรณ แต่การทานแอสตาแซนธินเดี่ยว ๆ อาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่หากอยากให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นควรจับคู่กับ 5 สารอาหารเหล่านี่ที่ช่วยเสริมฤทธิ์และเพิ่มการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น แต่จะมีอะไรบ้างในบทความนี้ KLARITY มีคำตอบ! 

1. ไขมันดี โอเมก้า 3

แอสตาแซนธินเป็นสารละลายในไขมัน ดังนั้นเมื่อทานคู่กับ โอเมก้า 3 จากน้ำมันปลาจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าเดิม อีกทั้งโอเมก้า 3 เองก็ช่วยลดการอักเสบและบำรุงสมอง ทำงานเสริมกับแอสตาแซนธินได้อย่างลงตัว

โอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มการดูดซึมแอสตาแซนธินได้สูง เพราะไขมันดีจะห่อหุ้มโมเลกุลของแอสตาแซนธิน ทำให้ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ทั้งสองสารยังช่วยกันปกป้องเซลล์สมองและระบบหัวใจหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของโรคเสื่อมสมรรถภาพและโรคหัวใจ

2.  วิตามินอี 

วิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน เมื่อจับคู่กับแอสตาแซนธินจะช่วยเสริมสร้างการป้องกันเซลล์จากความเสียหายได้มากขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันเยื่อหุ้มเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ

วิตามินอียังช่วยเพิ่มเสถียรภาพของแอสตาแซนธินในร่างกาย ป้องกันไม่ให้เกิดการสลายตัวก่อนที่จะไปทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การใช้ร่วมกันจึงช่วยให้ผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น และลดริ้วรอยแห่งวัยได้ดีกว่า

3. วิตามินซี 

วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำ ทำงานเสริมกับแอสตาแซนธินที่ละลายในไขมัน จึงสามารถปกป้องเซลล์ได้ทั้งในส่วนที่เป็นน้ำและส่วนที่เป็นไขมัน ทำให้ระบบการป้องกันเซลล์มีความครอบคลุมมากขึ้น

นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ซึ่งเมื่อรวมกับฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของแอสตาแซนธิน จะช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และดูอ่อนเยาว์มากขึ้น สำหรับสุขภาพดวงตา วิตามินซีช่วยป้องกันต้อกระจกและจอประสาทตาจากความเสียหาย

4. คอลลาเจน

คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และยืดหยุ่น เมื่อรับประทานคู่กับแอสตาแซนธิน จะช่วยป้องกันการสลายตัวของคอลลาเจนจากแสงแดดและอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดริ้วรอยได้ดีกว่า

แอสตาแซนธินช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวหนัง และป้องกันเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนเดิม การใช้ร่วมกันจึงช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของผิว ลดการเกิดริ้วรอยลึก และทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น

5. ไลโคปีน

ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากตระกูลเดียวกับแอสตาแซนธิน คือคาโรทีนอยด์ เมื่อใช้ร่วมกันจะช่วยเสริมสร้างการป้องกันผิวจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการป้องกัน UV damage ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดจุดด่างดำและริ้วรอย

ไลโคปีนยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแอสตาแซนธินในการบำรุงระบบหัวใจหลอดเลือด ลดการอักเสบในหลอดเลือด และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ การใช้ร่วมกันจึงให้ผลดีทั้งต่อผิวพรรณและสุขภาพโดยรวม

วิธีกินแอสตาแซนธิน ที่ถูกต้อง ช่วยให้ทำงานดีขึ้น 

  • เวลาที่เหมาะสม: ควรทานแอสตาแซนธินหลังอาหารที่มีไขมัน เพราะจะช่วยเพิ่มการดูดซึมได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าหรือมื้อกลางวันที่มีน้ำมัน เนย หรือไขมันดีอื่น ๆ
  • ปริมาณที่แนะนำ: สำหรับบุคคลทั่วไป ควรรับประทานแอสตาแซนธิน 4-12 มิลลิกรัมต่อวัน 
  • การจับคู่สารอาหาร: ไม่จำเป็นต้องทานสารอาหารทั้ง 5 ตัวพร้อมกัน สามารถเลือกสารที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง เช่น หากต้องการบำรุงผิวก็เลือกคู่กับวิตามินซีและคอลลาเจน หากต้องการบำรุงสมองก็เลือกโอเมก้า 3
  • ระยะเวลา: ควรรับประทานต่อเนื่องอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เนื่องจากแอสตาแซนธินต้องการเวลาในการสะสมในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย
แอสตาแซนธิน

สรุป

แอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์มากมาย แต่หากต้องการให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด การจับคู่กับสารอาหารอื่น ๆ จะช่วยเสริมฤทธิ์และเพิ่มการดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่ช่วยการดูดซึม วิตามินอีและซีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ คอลลาเจนที่บำรุงผิว และไลโคปีนที่ช่วยป้องกันแสงแดด

การเลือกทานแอสตาแซนธินควรพิจารณาจากความต้องการของตัวเอง และควรรับประทานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนเริ่มรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

Article by

klarity asia