ไขความลับสมองซีกขวาทำหน้าที่อะไร? พร้อมเทคนิคกระตุ้นสมอง

สมองของมนุษย์มีความซับซ้อนกว่าที่ตาเห็น และ “สมองซีกขวา” ก็คือเบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และอารมณ์ที่เรารู้สึกในทุก ๆ วัน แล้วคุณเคยสงสัยไหมว่า สมองซีกขวาทำหน้าที่อะไร จริง ๆ แล้ว? บทความนี้จะพาคุณไปเข้าใจอย่างลึกซึ้ง พร้อมเผยเทคนิคในการกระตุ้นสมองซีกขวาให้แอคทีฟอยู่เสมอ รวมถึงตัวช่วยดี ๆ อย่าง Ginkgo Biloba จาก KLARITY ที่ช่วยบำรุงสมองอย่างตรงจุด!

สมองมีหน้าที่อะไร? เข้าใจโครงสร้างเพื่อดูแลให้ถูกวิธี

สมองเป็นศูนย์ควบคุมหลักของร่างกาย มีหน้าที่รับรู้และส่งสัญญาณประสาทไปยังส่วนต่าง ๆ ทำให้เรารู้สึก เคลื่อนไหว คิด วิเคราะห์ และตอบสนองได้อย่างมีระบบ

หน้าที่ของสมอง สามารถจำแนกตามโครงสร้างได้ดังนี้

• สมองใหญ่ (Cerebrum): แบ่งออกเป็นสมองซีกซ้ายและขวา ควบคุมสติสัมปชัญญะ ความคิด การเรียนรู้ ความจำ และอารมณ์ นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ ตามหน้าที่ เช่น ส่วนหน้า (ความคิด การตัดสินใจ) ส่วนข้าง (การได้ยิน) ส่วนบน (การรับความรู้สึก) และส่วนหลัง (การมองเห็น)
• สมองน้อย (Cerebellum): ควบคุมการเคลื่อนไหว การทรงตัว และการประสานงานของกล้ามเนื้อให้เกิดความแม่นยำ
• ก้านสมอง (Brainstem): ควบคุมระบบที่สำคัญต่อการมีชีวิต เช่น การเต้นของหัวใจ การหายใจ ความดันโลหิต ระดับการตื่นตัว และการตอบสนองรีเฟล็กซ์ต่าง ๆ

การทำความเข้าใจโครงสร้างและหน้าที่ของสมองช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพสมองได้อย่างเหมาะสม ผ่านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การพักผ่อนที่เพียงพอ และการฝึกสมองด้วยกิจกรรมที่กระตุ้นความคิด

สมองซีกขวาทำหน้าที่อะไร? เบื้องหลังจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

สมองซีกขวาเน้นการทำงานด้าน "ภาพรวม" และ "อารมณ์" เป็นหลัก โดยไม่เน้นตรรกะหรือรายละเอียดแบบสมองซีกซ้าย หน้าที่ของสมองซีกขวาที่สำคัญ ได้แก่

• การจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
• การจดจำภาพ รูปทรง และสีสัน
• การตีความสัญญาณที่ไม่เป็นคำพูด เช่น สีหน้า เสียงสูงต่ำ น้ำเสียง
• ความสามารถทางดนตรีและศิลปะ
• การมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์
• การควบคุมกล้ามเนื้อด้านซ้ายของร่างกาย
  

อย่างไรก็ตามนักประสาทวิทยาสมัยใหม่พบว่า แนวคิดเรื่อง "สมองซีกซ้าย-ซีกขวา" ที่แบ่งแยกชัดเจนเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนบางส่วน เนื่องจาก

1. สมองทั้งสองซีกทำงานประสานกันตลอดเวลาผ่านเส้นใยประสาท Corpus Callosum
2. กระบวนการคิดซับซ้อน เช่น ความคิดสร้างสรรค์ ต้องอาศัยการทำงานของสมองทั้งสองซีก
3. แม้จะมีการแบ่งงานกันทำ แต่ไม่ได้แยกขาดจากกันอย่างสมบูรณ์

ดังนั้น แม้คุณจะเป็นคนที่ "คิดภาพในหัวเก่ง มีเซนส์ทางศิลปะ หรือเข้าใจอารมณ์คนอื่นได้ดี" แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นผลจากการทำงานของสมองซีกขวาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของสมองทั้งสองซีกที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างกัน

เปรียบเทียบหน้าที่ของสมองซีกซ้ายและขวา

เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น มาดูเปรียบเทียบกันระหว่าง สมองซีกซ้ายและขวาทำหน้าที่อะไรบ้าง

หมายเหตุ: แม้สมองจะแยกซีก แต่จริง ๆ แล้วสมองทั้งสองซีกต้องทำงานประสานกันเสมอ เช่น เวลาคุณฟังเพลง (ซีกขวา) และวิเคราะห์เนื้อเพลง (ซีกซ้าย)

5 เทคนิคฝึกการทำงานของสมองเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์

การพัฒนาทักษะที่มักเชื่อมโยงกับการทำงานของสมองซีกขวา เช่น ความคิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงพื้นที่ สามารถทำได้ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ควบคู่กับการดูแลสุขภาพโดยรวม

1. วาดภาพ ระบายสี หรืองาน DIY กิจกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงพื้นที่และจินตนาการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานหลายส่วนของสมอง 
2. ฟังดนตรีอย่างสม่ำเสมอ ดนตรีกระตุ้นสมองหลายส่วน รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และการประมวลเสียง เนื้อเพลง การฟังดนตรีหลากหลายรูปแบบ (ไม่จำกัดเฉพาะดนตรีคลาสสิกหรือ Ambient) สามารถกระตุ้นการเชื่อมโยงในสมองได้
3. ฝึกสมาธิ (Mindfulness) การฝึกสมาธิช่วยลดความเครียด เพิ่มความจดจ่อ และพัฒนาความสามารถในการควบคุมความคิด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของสมองโดยรวม ไม่เฉพาะซีกใดซีกหนึ่ง
4. ใช้มือที่ไม่ถนัด การใช้มือที่ไม่ถนัดทำกิจกรรมต่าง ๆ จะกระตุ้นเซลล์ประสาทและการเชื่อมโยงใหม่ ๆ ในสมอง อย่างไรก็ตาม กิจกรรมนี้ไม่ได้กระตุ้นเฉพาะ "สมองซีกขวา" แต่เป็นการกระตุ้นการทำงานของวงจรประสาทที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน
5. เขียนบันทึกความรู้สึก การเขียนบันทึกช่วยในการประมวลอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายส่วนของสมอง 

เสริมสมองให้แอคทีฟด้วย KLARITY Japan Ginkgo Biloba

สมองคืออวัยวะที่ใช้พลังงานและเลือดสูงที่สุดในร่างกาย ดังนั้นการดูแลด้วยสารอาหารเฉพาะทางจึงจำเป็น โดยเฉพาะ Ginkgo Biloba (ใบแปะก๊วย) ที่มีการศึกษาว่าช่วยเสริมสมรรถภาพสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

KLARITY Japan Ginkgo Biloba มีดีอะไร?

• สารสกัดคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
• ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดความเสี่ยงสมองตื้อหรือขาดสมาธิ
• บำรุงความจำ ความคิดสร้างสรรค์ และการจดจำ ได้ทั้งสมองซีกซ้ายและขวา
• เสริมสมองช่วงทำงานหนัก อ่านหนังสือ หรือประชุมทั้งวัน 
• ลดอาการหลงลืม และป้องกันความเสื่อมของสมองในระยะยาว