ปริมาณโอเมก้า 3 ในปลาทะเลไทย VS. ปลาทะเลในต่างประเทศ

เมื่อพูดถึงสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โอเมก้า 3 มักเป็นชื่อแรก ๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง โดยเฉพาะจากแหล่งธรรมชาติอย่างปลาทะเล ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนและกรดไขมันที่ดีต่อสมองและหัวใจ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่า ปริมาณโอเมก้า 3 ในปลาทะเลที่จับได้ในประเทศไทยเทียบกับปลาทะเลในต่างประเทศเป็นอย่างไร บทความนี้ KLARITY จะเจาะลึกถึงความแตกต่างของปริมาณโอเมก้า 3 ระหว่างปลาทะเลไทยและต่างประเทศ เพื่อให้คุณได้เลือกทานปลาอย่างเหมาะสมสำหรับสุขภาพที่ดีขึ้น

โอเมก้า 3 ในปลาคืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อร่างกาย?

Omega 3 คือกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากการบริโภคอาหาร โดยเฉพาะจากปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิด EPA (กรดอีโคซาเพนทาอีโนอิก) และ DHA (กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก) ที่มีคุณประโยชน์มากมาย 

โอเมก้า 3 มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสมองและระบบประสาท ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับไขมันในเลือด และลดการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีผลดีต่อสุขภาพผิว บำรุงสายตา และช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ร่างกายของเราจะได้รับในปริมาณที่ต่างกันไปตามคุณภาพของปลาและแหล่งที่มา

ปลาทะเลไทยที่มีโอเมก้า 3 สูง มีอะไรบ้าง?

ปลาทะเลไทยหลายชนิดมีปริมาณโอเมก้า 3 สูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตัวอย่างปลาที่ควรบริโภคมีดังนี้

• ปลาทู – เป็นปลาที่หาทานง่ายและมีปริมาณโอเมก้า 3 สูง ช่วยบำรุงสมองและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
• ปลาสำลี – ปลาที่มีไขมันดีมาก มีโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบประสาท
• ปลากะพงขาว – ปลายอดนิยมที่มีโปรตีนและโอเมก้า 3 สูง บำรุงสมองและหัวใจ
• ปลากุเลา – เป็นปลาที่มีไขมันดีและโอเมก้า 3 ช่วยเสริมสุขภาพหัวใจและลดระดับไขมันในเลือด
• ปลาช่อนทะเล – มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : 5 อันดับปลาที่คนไทยนิยม

ปลาทะเลในต่างประเทศที่มีโอเมก้า 3 สูง มีอะไรบ้าง?

ปลาทะเลจากต่างประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านปริมาณโอเมก้า 3 สูง ได้แก่

• ปลาแซลมอน – ปลาน้ำลึกที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูงมาก โดยเฉพาะ EPA และ DHA ช่วยบำรุงหัวใจและสมอง
• ปลาแมคเคอเรล – อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และวิตามิน D ช่วยเสริมสร้างกระดูกและลดการอักเสบ
• ปลาซาร์ดีน – ปลาขนาดเล็กที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 และแคลเซียม บำรุงหัวใจและกระดูก
• ปลาทูน่า – มีปริมาณโอเมก้า 3 สูง บำรุงสมองและช่วยลดไขมันในเลือด
• ปลาเฮร์ริ่ง – ปลาน้ำลึกที่มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

ทั้งปลาทะเลไทยและต่างประเทศล้วนมีคุณค่าทางอาหารที่สูง โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยบำรุงสมอง การเลือกบริโภคปลาทะเลเป็นประจำจึงเป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพ

 KLARITY Omega-3 จากนอร์เวย์ ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูง มั่นใจได้ในทุกเม็ด

เปรียบเทียบปริมาณโอเมก้า 3 ในปลาทะเลไทย VS. ปลาทะเลต่างประเทศ

ปลาทะเลไทยและปลาทะเลต่างประเทศต่างก็เป็นแหล่งโอเมก้า 3 ที่ดี แต่ปริมาณอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดปลาและสภาพแวดล้อม ปลาทะเลไทย เช่น ปลาทู และปลากะพงขาว มีโอเมก้า 3 ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการบำรุงสุขภาพ แต่โดยทั่วไป ปลาทะเลน้ำลึกจากต่างประเทศ เช่น ปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรล มักมีปริมาณโอเมก้า 3 สูงกว่า เนื่องจากสภาพแวดล้อมน้ำที่เย็นและอาหารธรรมชาติที่มีไขมันดีมากกว่า ทำให้ปลาจากแหล่งเหล่านี้สะสมโอเมก้า 3 ได้มากกว่า

ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณโอเมก้า 3 ในปลา

ปริมาณโอเมก้า 3 ในปลาไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดปลาเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับหลายปัจจัย ได้แก่

• สภาพแวดล้อม – ปลาทะเลน้ำลึกในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิหนาวเย็นมักมีโอเมก้า 3 สูง เนื่องจากการสะสมไขมันในร่างกายเพื่อป้องกันความเย็น
• อาหาร – ปลาที่กินแพลงก์ตอนและสาหร่ายซึ่งเป็นแหล่งโอเมก้า 3 โดยตรง จะมีปริมาณโอเมก้า 3 ในเนื้อสูง
• ชนิดปลา – ปลาบางชนิดสะสมโอเมก้า 3 ได้มากกว่าปลาชนิดอื่น เช่น ปลาแซลมอนและปลาแมคเคอเรลมีโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาทะเลไทยบางชนิด
• วิธีการจับปลา – ปลาที่จับจากธรรมชาติจะมีโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาที่เลี้ยงในฟาร์ม เนื่องจากอาหารและสภาพแวดล้อมต่างกัน
• การปรุงอาหาร – วิธีการปรุงปลาก็ส่งผลต่อปริมาณโอเมก้า 3 เช่น การทอดอาจทำให้ปริมาณไขมันดีลดลง หลายคนจึงนิยมกินอาหารเสริมโอเมก้า 3 เพราะได้ปริมาณโอเมก้าตามที่ต้องการสูงสุด

สรุป

การบริโภคปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน เป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ สมอง และระบบประสาท อย่างไรก็ตาม หากการบริโภคปลาในแต่ละวันไม่เพียงพอหรือไม่สะดวก การเลือกทานอาหารเสริมที่มีโอเมก้า 3 เข้มข้นก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือผลิตภัณฑ์จาก KLARITY ซึ่งเป็นอาหารเสริมโอเมก้า 3 ที่มีคุณภาพสูง นำเข้าจากนอร์เวย์ อุดมด้วย DHA และ EPA เพื่อให้คุณมั่นใจว่าร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วนในทุกวีน